การตามหาหมอกในครั้งนี้ เราเริ่มออกเดินทางกันในยามค่ำคืนวันเลิกงาน เวลาประมาณสัก 22.00 .ได้
เราขับรถไปตามถนนหมายเลข 9 จากนั้นก็เลี้ยวเข้าถนนพหลโยธิน ขับผ่านเส้นเลี่ยงเมืองสระบุรี
แวะซื้อชาเย็น ที่อ.เฉลิมพระเกียรติ ขับเข้าถนนหมายเลข 21 ขับไปยาวๆเลยทีนี้
เมื่อเริ่มเข้าเขตจังหวัดเพชรบูรณ์ สายฝนเริ่มโรยปรายลงมา
ในใจคิดว่าก็ดีวะ ฝนก็ตอนกลางคืนถ้าหยุดก่อนเช้าทะเลหมอกมาแน่...
แต่ถ้าไม่หยุดล่ะ........ลาก่อยเลยทริปตามหาสายหมอกของชั้น.....จบ.......ยังไม่จบเซ่!?!?
จากตัวเมืองเพชรบูรณ์เราขับรถไปตามถนนหมายเลข 21 เหมือนเดิม
เมื่อถึงเเยกหล่มสักให้เลี้ยวเข้าถนนหมายเลข 2088 จากนั้นเลี้ยวไปถนน 2372
ถนนเส้นนี้กำลังมีการปรับปรุงอยู่ก็ขับรถกันระวังๆนะครับ
จากขับรถไปตามถนนนั้นจะเจอ 7-11 เลี้ยวเข้าไปยังถนนหมายเลข 2331
จากนี้ไปจะเป็นเส้นทางขึ้นเขาชั้นๆและมีโค้งที่อันตรายหลายจุด
ขับรถด้วยความระมัดระวังครับ...แซงไม่ได้ก็ไม่ต้องแซง
เมื่อมาถึงป้ายอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า จะมีป้ายบอกทางเลี้ยวไปภูทับเบิกครับ
เรามาถึงภูทับก่อนพระอาทิตย์ขึ้น..และโชคดีที่ฝนหยุดแล้ว....คาดว่าเราน่าจะเจอหมอก
เรานอนพักเอาแรงกันในรถนั่นแหละ
ยามเช้าพระอาทิตย์ที่จุดชมวิวไร่ริมผา....จุดนี้ก็เป็นจุดชมทะเลหมอกยามพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยอีกแห่งหนึ่ง
หมอกมาแล้ว...โชคดีอยู่ครับที่เรายังเจอทะเลหมอกบ้าง..แม้จะไม่หนาตา...แต่ก็ดีกว่าเจอหมอกฟุ้ง
มองไปอีกด้านจะเห็นวัดป่าภูทับเบิกอยู่ไกลๆ
หากวันไหนที่ท้องฟ้าใส...สามารถมองเห็นได้ถึงภูหอ และภูกระดึงของจังหวัดเลย
หมู่บ้านชาวเขาท่ามกลางสายหมอก...
จากนั้นเราได้ขับรถลงมาเพื่อที่จะไปยังเขาค้อต่อ
แวะถ่ายจุดชมวิวโค้งเลข 3 และ...และ..เห็นอะไรนั่นไหมครับ
ผมรู้ครับว่าใครๆก็ชอบธรรมชาติที่สวยงาม อยากจะลงไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นความทรงจำ
แต่ความปลออดภัยควรจะมาก่อนครับ...จากรูปจะเห็นว่ามีรถจอดอยู่ตรงทางโค้ง
มันอันตรายนะครับเวลามีรถสวนไปสวนมา แล้วนี้เป็นโค้งบนเขาด้วย
ซึ่งห่างไปอีกสักนิด ไม่ถึง 100 ม. มันก็มีที่ๆจอดรถได้แล้วครับ ...ควรจะไปจอดตรงนั้นนะครับ
จากนั้นเราขับรถลงเขามาเรื่อยๆครับ ผ่านถนนหมายเลข 2372 เข้าสู่ถนนหมายเลข 12
ซึ่งเป็นถนนที่ขึ้นสู่เข้าค้อ ตอนนี้เป็นถนน 6 เลนแล้วครับขับง่ายอยู่
ขับไปสักพักก่อนจะเข้าเขตแคมป์สนเราจะพบกับทางเข้าวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
จริงแล้วทางเข้าวัดมีหลายทางนะครับ จะเข้าทางไหนก็ตามสะดวก
ภายในวัดมีสิ่งที่น่าสนใจคือ เจดีย์พระธาตุผาแก้ว
ที่ตกแต่งลวดลายด้วยถ้วยกระเบื้อง หินสีต่างๆ
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/6BPbJMxoVhK2
อุโบสถพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ที่จะมองเห็นพระพุทธเจ้า 5 พระองค์สีขาวโดดเด่นตั้งแต่ไกลนั่นแหละครับ
จากนั้นเรามุ่งหน้าไปที่ pino latte ร้านกาแฟหลักร้อยวิวหลักล้าน
ที่เป็นจุดชมวิวอีกแห่งนึงที่ได้รับความนิยมมาก
ในปัจจุบันนี้มีที่พักให้บริการแล้วด้วยนะครับ
ภาพแบบ 360 องศา
ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่ได้รับความนิยมอีกแห่งหนึ่งของเขาค้อครับ
จากนั้นเราจะเดินทางไปยังที่พักของเราแล้วครับ
ที่ La Maison Khaokho - ลาเมซองเขาค้อ
ซึ่งตั้งอยู่ที่ถนนหมายเลข 2325 ทางไปถนนศรีดิษฐ์ครับ
Phone: 089-989-4321 ,080-175-6000
Line: lamaison-khaokho
FB: fb.com/lamaison.khaokho
ที่ La Maison Khaokho นั้นเป็นบ้านพักที่ตกแต่งสไตล์ European Contemporary Style
เราสัมผัสได้ถึงความตั้งใจ และการตกแต่งของสถานที่ได้เลยครับ
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/maps/eHNWkwnJ8gp
เมื่อตอนที่มา เราได้เวลคัมดริ๊งเป็นน้ำพันช์รสชาติเข้มข้น
บ้านพักที่เรานอนในคืนนี้เป็นแบบ Normal Size
ช่วงนี้มีโปรในราคาคืนละ 3,000 บาท
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/JqEqXt
ภายในห้องพักตกแต่งด้วยโทนสีขาวสะอาดตา
มีทีวีตู้เย็นและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบ
การตกแต่งมีความใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆน้อย
ห้องน้ำสวย..สะอาด มีอุปกรณ์ในการอาบน้ำให้และมีไดร์เป่าผมด้วย
ภาพแบบ 360 องศา https://goo.gl/gKY4Li
บรรยากาศบริเวณรอบๆที่พัก และบ้านพักแต่ละหลัง
ที่นี้มีบ้านพักให้เลือกสองแบบคือ แบบ Normal Size กับ Extra Size
แต่ถ้าหากเป็นในช่วงหน้าหนาวจะมีแบบเต๊นท์ให้เช่าด้วย
ยามเช้าเรามาทานอาหารกันที่ห้องอาหารของทาง La Maison Khaokho
ก็ยังคงคอนเซ็ปในโทนสีขาวสะอาดตา
อาหารเช้ามีให้เลือกทั้งแบบอเมริกันเบรคฟัส
และข้าวต้มแบบไทยๆที่เครื่องเน้นมากกกกก
ที่นี่ให้เช็คเอาท์ตอนเที่ยง หลังจากทานมือเช้าเสร็จ
เราจึงกลับไปนอนต่อครับ 55555
พอตอนเที่ยงก็ได้เวลากลับกรุงเทพแล้ว เพราะไม่อย่างนั้นจะถึงกรุงเทพดึกเกินไป
ขอบคุณเพื่อนๆที่ได้ติดตามกันมา
ขอบคุณ La Maison Khaokho - ลาเมซองเขาค้อ
ที่มอบที่พักสวยๆ ดีๆ ให้เราได้พักผ่อน
ถ้าใครอยากไปพักสามารถติดต่อได้ที่
110 หมู่ 6 ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ 67270
Phone: 089-989-4321 ,080-175-6000
Line: lamaison-khaokho
FB: fb.com/lamaison.khaokho
แล้วพบกันใหม่นะครับ
